วันพุธที่ 28 กันยายน พ.ศ. 2559

รีวิวเครื่องสำอางราคาประหยัด




   เรื่องดีๆที่อยากบอกต่อ 
ความสวยความงามย่อมเป็นเรื่องปกติที่คู่กับสาวๆ จึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่สาวจะต้องมีเครื่องสำอางเอาไว้เป็นอาวุธประจำกาย  ดังสุภาษิตที่ว่า "ไก่งามเพราะขน คนงามเพราะเเต่ง "ผมเลยจะมาบอกต่อสำหรับเครื่องสำอางราคาเบาๆที่หาซื้อได้ตามท้องตลาดทั่วไป ร้านประจำของผมก็คือศุภกรบิวตี้ และส่วนมากเครื่องสำอาง ก็มาจากศุภกรทั้งหมดเลยครับ  เป็นร้านเครื่องสำอางในตำนานคู่จังหวัดศรีสะเกษมานานพร้อมกันกับร้าน แต้ ฮก เซ้ง สำหรับสาวที่กำลังจะเริ่มแต่งหน้าที่ไม่รู้จะซื้ออะไรดี วันนี้เราจะรีวิวให้ดูกันครับ 

ขอบคุณภาพจาก www.facebook.com/ร้านศุภกรบิ้วตี้ ศรีสะเกษ

           เริ่มจากรองพื้นก่อน ถ้าใครที่เริ่มแต่งหน้าก็น่าจะเริ่มจากพวก BB CC ก่อน เพราะถ้าใช้รองพื้นเลย อาจจะหนาเกินไป เลยจะขอเสนอเป็น CC cream ของ เคที่ส์ ดอล มี 2 สีคือ สีเบสเขียว สำหรับปรับสภาพผิวหน้าให้กระจ่างขึ้น และสีเนื้อ สำหรับคนผิวสองสี ราคาอยู่ที่ 16-20 บาท แต่ที่ศุภกรขายในราคา 17 บาท เนื้อครีมเกลี่ยง่าย เนียนไปกับผิว แต่สำหรับคนหน้าแห้งระวังเรื่องคราบด้วยนะครับ นอกจากนี้ยังมียี่ห้ออื่นที่ดีเหมือนกัน เช่น Merrezca Smooto Meybelline หาซื้อได้ตามห้าง หรือตามท้องตลาดทั่วไปครับ

       ต่อมาเป็นรองพื้นครับ สำหรับใครที่แต่งหน้าชำนาญแล้วก็ขยับมาใช้รองพื้น ซึ่งก็มีก็มีอยู่หลายยี่ห้อหลายแบรนด์ด้วยกัน แต่ผมจะขอแนะนำเป็นของ REVLON colorstay ฝาสีดำซึ่งเป็นรองพื้นในตำนานที่ใครหลายๆคนก็รู้จัก สามารถนำมาแต่งเป็นประจำวันก็ได้ ราคาจะอยู่ที่ 450 บาทโดยประมาณ หาซื้อได้ตามเคาท์เตอร์แบรนด์ของเรฟลอน เนื้อรองพื้นเกลี่ยง่าย มีกลิ่นเล็กน้อย ใครที่รู้สึกไม่ชอบรองพื้นที่มีกลิ่นมองข้ามไปได้เลยนะครับ มีหลายเบอร์ให้เลือก ก็ถือเป็นเรื่องดีที่เค้าทำมาหลายสีให้เราเลือกให้เข้ากับสีผิวของเรา นอกจากเรฟลอนแล้วก็ยังมีแบรนด์อื่นซึ่งก็ดีเหมือนกัน เช่น l'oreal  KMA MTi หาซื้อได้ตามเคาท์เตอร์แบรนด์ตามห้้างทั่วไปครับ 

                 ต่อมาเป็นแป้งนะครับ สำหรับแป้งที่จะนำเสนอเป็นทั้งแบบฝุ่น และแบบอัดแข็ง คือ แป้งของ ชีเน่ พิ้งค์ แองเจิล บีบี พาวเดอร์ เป้นแป้งฝุ่นสีเนื้อที่สามารถใช้แทนแป้งพัฟได้เลย เป็นแป้งที่มีลักษณะคล้ายกับแป้งทรานซูเซ้นท์ แต่ไม่ใช่ ราคาอยู่ที่ 25 บาทซึ่งถูกมาก และอีกหนึ่งแบรนด์คือ บูเต้ ซุปเปอร์ออย คอนโทรล พาวเดอร์ เป็นแป้งพัฟอัดแข็งซึ่งจะรู้จักดีในหมู่กองถ่ายละครและช่างแต่งหน้าทั่วไป เป็นแป้งที่ควบคุมความมันได้ดีในระดับหนึ่ง มี 3 สี คือ เบอร์1 สำหรับคนผิวขาว เบอร์2 สำหรับคนผิวขาวเหลืองและผิวสองสี เบอร์3 สำหรับคนผิวเข้ม และสามารถใช้แทนบรอนเซอร์ได้ ราคาอยู่ที่ 25-100 บาท ซึ่งแต่ละที่ขายไม่เหมือนกัน ถามตามเว็บไซค์จะขายอยู่ที่ 50-100 บาท แต่ถ้าตามร้านเครื่องสำอางจะถูกลงอยู่ที่ 25-40 บาทโดยประมาณ นอกจากนี้ยังมียี่ห้องอื่นที่ดีไม่แพ้กันเช่น แซนโดริ ศรีจันทร์ คิ้วท์เพรส หาซื้อได้ตามท้องตลาดทั่วไปครับ


           ต่อมาเมื่อลงแป้งเสร็จแล้ว ก็ต้องมีงานตาซักหน่อย นั่นก็คืออายชาโดว พาเลท ซึ่งจะนำเสนอเป็นของยี่ห้อ SIVANNA COCORS รุ่น professional color mix มีทั้งเนื้อแมทและชิมเมอร์ ซึ่งเป็นพาเลทที่มีหลายสีให้เราได้ใช้แต่งตากัน สามารถแต่งไปเรียนได้ ออกงานได้ หรือไปเที่ยวได้ นอกจากแต่งตายังสามารถใช้เป็นอายไลเนอร์ได้ ราคาของซีเวียนนารุ่นนี้จะอยู่ที่ 80-90 บาท ซึ่งถือว่าถูกมาก แต่ข้อเสียของพาเลทนี้คือ เนื้ออายชาโดวจะติดไม่ค่อยทนซักเท่าไหร่ ถ้าสาวๆคนไหนพอมีทุนในการจะวื้อพาเลทก็อยากให้ลงทุนไปเลยซักหนึ่งชิ้น เช่น นู้ด พาเลทของเมย์เบอลีน พาเลทของ Wet and Wind หรือพาเลทของ 4U2 หาซื้อได้ตามวัตสันหรือห้างใหญ่ๆ แต่ถ้าไม่ได้แต่งแบบออกงานทั้งวันก็น่าจะเอาอยู่ สามารถซื้อได้ตามร้านขายเครื่องสำอางทั่วไปครับ  


               มีตาแล้วก็ต้องมีคิ้ว เพราะคิ้วคือมงกุฏของหน้า ผู้หญิงจะให้ความสำคัญกับเรื่องคิ้วมาก เพราะถ้าไม่มีคิ้วก็จะไม่มั่นใจในตัวเอง เลยอยากจะแนะนำสาวๆที่พึ่งจะเริ่มเขียนคิ้วให้ใช้เป็นดินสอในการร่างโครงคิ้วก่อน และใส่สีฝุ่นสำหรับเขียนคิ้วถมคิ้วลง ระวังอย่าถมหนาเกินไปจากมงกุฏจะกลายเป็นปลิง และผลิตภัณฑ์ที่จะนำเสนอคือ ดินสอเขียนคิ้วของ odbo สีเบอร์ 05 จะเป็นสีออกนำตาลเทา ราคาอยู่ที่     15-20 บาท เนื้อจะไม่นิ่มากและไม่แข็งมาก หาซื้อได้ตามท้องตลาดทั่วไป และอีกหนึ่งอย่างคือ สีฝุ่นเขียนคิ้วของ LIDEAL eyebrow poder สีเบอร์ 01 เป็นสีน้ำตาลเข้มและนำตาลอ่อนในตลับเดียว เนื้อแมท ราคาอยู่ที่ 55 บาท สีชัด ติดทน สามารถประยุกต์ใช้เป็นอายชาโดวหรือบรอนเซอร์ได้ หาซื้อได้ตามร้านทั่วไปครับ


               เมื่อได้คิ้ว ตา แล้ว สิ่งสำคัญคือพวงแก้มของสาวๆนั่นเอง เวลาเลือกสีปัดแก้มก็อยากให้เลือกสีที่เป็นธรรมชาติและสีผิวเรามากที่สุด ไม่อยากให้สาวๆปัดแก้มออกมาแล้วเป็นลิง จึงอยากจะนำเสนอเป็นสองสีที่สามารถใช้ได้กับทุกๆคน คือ บรัชออนของ TANAKO mini blusher เบอร์ 006 สีจะออกเป็นสีส้มพีช เนื้อแมท ราคาอยู่ที่ 40 บาท ซึ่งถูกมาก สีแน่น ชัด และอีกหนึ่งอันคือ บรัชออนของ ALLOT  เบอร์08 จะมีสองหลุมสองสีด้วยกัน คือสีดำจะเป็นอาชาโดว สีชมพูจะเป็นบรัชออน ซึ่งเป็นเนื้อแมททัั้งสอง ราคาอยู่ที่ 35 บาท ซึ่งถูกมากอีกแล้วครับท่าน สีชัดดี เวลาปัดให้ปัดสีส้มลงไปก่อนเบาๆ แล้วตามด้วยสีชมพูเบาๆเช่นกัน จะสีสีแก้มที่ดูธรรมชาติเหมาะกับสาวๆนักศึกษาอย่างมากครับ


สุดท้ายและท้ายที่สุดในการแต่งหน้าสำหรับสาวๆ คือการทาลิปสติก การที่จะเลือกลิปสติกเราควรเลือกให้ออกเป็นเนื้อชายน์ๆซักเล็กน้อย หรือใครที่ชอบเนื้อแมทก็ไม่ว่ากัน และสีควรเป็นสีที่เข้ากับเราที่สุด ทาแล้วเรามั่นใจที่สุด จึงขอนำเสนอเป็นลิปสติกยี่ห้อง Be witch เบอร์ 13 สีจะออกเป็นสีชมพูนู้ดๆ แต่ไม่ถึงกับนู้ดมาก ราคาอยู่ที่ 25 บาท สามารถหาซื้อได้ตมร้านทั่วไป เวลาทาให้ทาที่ในริมฝีปาก แล้วเม้มให้สีติดไม่ชัดมาก ให้ดูระเรื่อๆ ดูเป็นปากสุขภาพดี   


สำหรับข้อมูลที่นำมาเสนอ ก็หวังว่าจะเป็นประโยชน์สำหรับหลายๆคนไม่น้อยเลยทีเดียว บล็อคนี้ก็ขอยุติการเขียนบล็อคไว้เท่านี้ บล็อคหน้าจะเป็นเรื่องอะไรนั้นรอติดตามนะครับ ขอบคุณสำหรับที่เข้ามาเปิดอ่านนะครับ ^^

วันพฤหัสบดีที่ 22 กันยายน พ.ศ. 2559

ร้านอาหารสุดประทับใจ

                                                       ร้อยเรื่องราวเล่าผ่านโลกโซเชียล                
             
สวัสดีครับทุกๆคน วันนี้ผมจะมาเล่าเรื่องราวของผมให้ฟังกัน ผมชื่อเอิร์ทนะครับ นักศึกษาคณะครุสาสตร์ สาขาวิชาภาษไทยชั้นปีที่ 2 สาขาวิชาภาษาไทย มหาวิทยาลัยราชภัฏศรีสะเกษ ลูกหลานชาวศรีสะเกษนี่แหละครับ ผมเป็นคนชอบท่องเที่ยวไปกับกลุ่มแกงค์เพื่อนๆของผม ทั้งเพื่อนตอนมหาวิทยาลัย และเพื่อนในสมัยมัธยมที่ยังได้เจอกันอยู่ เราชอบไปกินข้าวด้วยกันฉันเพื่อน ไปเที่ยวด้วยกันในศรีสะเกษบ้านเราเอง เพราะรู้สึกว่า มันสามารถไปได้จริงโดยที่ไม่ต้องแบ็คแพ็คไปไกลถึงที่อื่น ซึ่งที่เที่ยวในจังหวัดศรีสะเกษของเราก็ไม่ใช่น้อยๆ เยอะจนไม่รู้จะเริ่มที่ไหนก่อนดี ฮ่า ๆ ๆ ไปเช้าเย็นกลับก็ยังได้ สามารถเเวะทานอาหารตามร้านๆต่างๆได้เสมอ และในวันนี้ผมก็มีร้านอาหารที่ประทับใจมาฝากทุกท่านครับ จะเป็นเช่นไรไปดูกันครับ
                                                                 ร้านอาหารสุดประทับใจ
                  การที่เราจะหาร้านอาหารซักร้านเพื่อเป็นร้านโปรดนั้น ก็คงต้องเลือกจากรสชาติอาหารเป็นอันดับแรก เพราะถ้ารสชาติอร่อยไม่เปลี่ยนไปจากเดิม และทานอีกกี่ครั้งก็ไม่เบื่อ นั่นก็ถือว่าคือสุดยอดของร้านแล้วล่ะ  วันนี้ผมจะขอนำเสนอร้านอาหารในจังหวัดศรีสะเกษที่ผมคิดว่าผมทานแล้วไม่รู้สึกเบื่อเลย ๔ อันดับ ไปดูกันเลยครับ
                                                            อันดับที่ ๑ ร้านส้มตำเอื้องคำ
ขอบคุณภาพจาก www.wongnai.com
ร้านนี้ตั้งอยู่หน้า มูลนิธิสว่างจิต ถนนวันลูกเสือ ตำบลเมืองใต้ อำเภอเมือง จังหวัดศรีสะเกษ เป็นร้านที่ผมคิดถึงเป็นร้านแรกถ้าจะทานส้มตำ ทางร้านมีเอกอักษณ์ที่โดดเด่นคือ คนตำจะมีรูปร่างอวบอ้วน คู่กับครกใบใหญ่ด้วยกันคนละใบ หน้าร้านจะมีไก่ทอด ไข่ต้ม ซี่โครงไก่ทอด หมูยอทอด ปลาทอด แคปหมู ขนมจีน อาหารอีสานที่เป็นถุง เป็นต้น ราคาทั้งส้มตำและอาหารอื่นๆก็เล่นต้นที่ ๑๐ บาท ซึ่งถือว่าถูกมาก และอีกหนึ่งอย่างที่ถือว่าเป็น signature ของทางร้านคือ ส้มตำครับ ทางร้านได้ใส่ใจรสชาติของส้มตำให้กับลูกค้าทุกคน สั่งแบบไหนก็ได้กลับไปตามที่สั่ง ซึ่งผมประทับใจมาก จึงขอยกให้เป็นอันดับที่ ๑ ไปเลยครับ
                                                    อันดับ ๒ ร้านป้าอ้วน ๒ อาหารตามสั่ง
ขอบคุณภาพจาก www.foursquare.com
 ร้านนี้ตั้งอยู่ที่ ถนนเทพา ตำบลเมืองใต้ อำเภอเมือง จังหวัดศรีสะเกษ เยื้องๆกับร้านป.บัณฑิต ร้านนี้จะเป็นที่รู้จักกันดีในหมู่นักเรียน นักศึกษา และคนวัยทำงาน จะเป็นร้านอาหารตามสั่งเป็นร้านอาหารตามสั่งเหมือนร้านทั่วไปๆ แต่ร้านป้าอ้วนนี้จะมีเมนูที่ร้านอื่นไม่มี เช่น ข้ามผัดต้มยำ ไข่ยัดใส้ต้มยำ ร้านนี้ก็ถือว่ารสชาติอร่อยครับ ราคาเริ่มต้นที่  ๓๐ บาท นอกจากจะสั่งแบบราดข้าวแล้ว ยังสามารถสั่งเป็นกับมาทานกับข้าวเดี่ยวๆก็ได้ ปริมาณของอาหารที่ได้ก็ถือว่าทานได้อิ่มพอดี ไม่มากไม่น้อยจนเกินไป จึงยกให้ร้านป้าอ้วนอยู่ในอันดับ ๒ ครับ
                                                            อันดับ ๓ ร้านป.ปักษ์ใต้ ๓
                                                     ขอบคุณภาพจาก www.wongnai.com
ร้านนี้ตั้งอยู่ที่ ถนนราชการถไฟ ตำบลเมืองใต้ อำเภอเมือง จังหวัดศรีสะเกษ ตรงข้ามกับโรงเรียนสตรีสิริเกศ และโรงแรมพรหมพิมาน ร้านเป็นร้านข้าวราดแกง แต่เป็นแกงทางภาคใต้ทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นแกงไตปลา คั่วกลิ้ง แกงเหลือง เป็นต้น ทางร้านจะมีน้ำพริกะปิและผักสดเสิร์ฟให้ฟรี รสชาติถือว่าอร่อย โดยส่วนตัวผมเป็นคนที่ชอบอาหารอยู่แล้ว โดยเฉพาะแกงเหลือง ทางร้านจะทำอาหารออกมาสดใหม่ทุกวัน ราคารเริ่มมต้นที่ 30 บาท ปริมาณที่ได้ถือว่าคุ้มราคา แต่ผมคิดว่าเวลาทางร้านตักกับข้าวราดลงในข้าวควรตักให้มีน้ำพอได้คลุกกับข้าวด้วย จะได้ทานง่ายขึ้น แต่ในส่วนอื่นไม่มีความเห็นใดๆ อร่อยครับ ผมจึงยอกให้เป็นอันดับที่ ๓ ครับ
                                                    อันดับที่ ๔ ร้านก๋วยเตี๋ยวเรือรังสิต

ขอบคุณภาพจาก www.wongnai.com
ร้านนี้ตั้งอยู่ที่ ถนนราชการถไฟ ตำบลเมืองใต้ อำเภอเมือง จังหวัดศรีสะเกษ ตรงข้ามศาลากลางจังหวัดศรีสะเกษ เยื้องๆศาลหลักเมือง ร้านนี้จะว่าเป้นร้านก่วยเตี๋ยวในตำนานก็ว่าได้เลยครับ เพราะผมจำความได้ ก็เห็นร้านก๋วยเตี๋ยวนี้แล้ว ร้านนี้น่าจะเปิดมาไม่ต่ำกว่า ๓๐ ปี  นอกจากก๋วยเตี๋ยวที่เป็นหลักแล้ว ยังมีข้าวมันไก่ ช้าวหมูแดง ข้าวขาหมู ข้าวหมูกรอกอีกด้วย รสชาติถือว่าอร่อยครับ น้ำจิ้มของเมนูข้าวถือว่าใช้ได้ครับ ราคาเริ่มต้นที่ 35 บาท ปริมาณที่ได้ถ้าโดยส่วนตัวผมถือว่ายังน้อยอยู่ แต่ก็ยังอร่อยครับ จึงยกให้เป็นอันดับ ๔ ครับ